Wednesday, January 25, 2006

ผ่านพบไม่ผูกพัน



ผ่านพบไม่ผูกพัน
Unattached Encounters
โดย..เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
สำนักพิมพ์สามัญชน

...อันใดเล่าที่ควรเข้ามาแทนที่ความกลัวเพื่อเราจะได้มีพลังขับเคลื่อนความคิดไปในทางบวกมากขึ้น
ทั้งสร้างสรรค์และสงบสุขมากขึ้น คำตอบที่ตรงที่สุดคือความกล้า
อย่างไรก็ตาม ความกล้าหาญทางจิตวิญญาณนั้นต่างจากความกล้าในความหมายสามัญ คือ
มิได้มีไว้สู้รบกับผู้ใด หากหมายถึง การเปิดกว้าง ต้อนรับทุกเหตุการณ์ผ่านเข้ามาในชีวิตอย่างไม่สะทกสะท้าน
จากนั้น ค้นหาจุดลงตัวในการสัมผัสสัมพันธ์กับมัน
สิ่งตรงข้ามกับความกลัวอีกอย่างหนึ่งคือ ความรัก
ทั้งนี้เพราะความรักในระดับจิตวิญญาณที่ปราศจากขอบเขตและเงื่อนไขจะบังเกิดได้
ก็ต่อเมื่อเราเอาชนะความต้องการและความคาดหวังแบบคับแคบเสียก่อน
ความรักในความหมายนี้ นับเป็นพลังงานที่ทรงอานุภาพอย่างยิ่ง
ทำให้เกิดพลังสร้างสรรค์และการมองโลกเชิงบวกได้ต่อเนื่อง....

...ผ่านพบโดยไม่ผูกพัน บางที อาจลึกซึ้งยั่งยืนกว่าร้อยหัวใจเข้ากับทุกอย่าง
ด้วยโซ่ตรวนที่มักตั้งชื่อผิดๆ ว่า " ความรัก "....

..บางที เราอาจเดินทางเพื่อหาที่ทิ้งขยะในหัวใจ...

...บางท่าน แต่งผิวนอกไว้แกร่งกร้าน เนื่องเพราะเนื้อในแน่นคับเกินกว่าจะมีพื้นที่ให้ผู้อื่น
บางคน เย็นชาแข็งกระด้าง เพราะรู้ดีว่า หัวใจของตนอ่อนนุ่มเกินกว่าจะเปิดเผย...

...ยามหมอกฝนโปรยปรายใส่หินผา ท่านอาจร่วมร้องไห้กับผาหิน...

...บางครั้ง เราเต็มใจเป็นสะพานให้ใครบางคนก้าวข้าม
แต่ห้วงยามแห่งการเสียสละกับห้วงยามแห่งการพลัดพราก ก็มักจะเกิดขึ้นพร้อมกัน
ทั้งนี้ เพราะสะพานย่อมมิใช่ที่อยู่ถาวรของผู้ใด...

...คนเราเกิดมาในโลก แท้จริงแล้วจะมีเพื่อนร่วมทางสักกี่คน
ส่วนใหญ่ที่สุดก็เป็นเพียงคนข้างทางของกันและกัน...

...คนข้างทางในชีวิตเราไม่ได้ปรากฏตัวอย่างไร้เหตุผลเสมอไป
ผู้แปลกหน้าเหล่านี้ อาจจะมาพร้อมกับข่าวสารบางอย่าง
ที่ช่วยเติมเต็มความรับรู้หรือกระตุ้นสำนึกดีๆ ที่หายไปให้กลับคืน
หากเรารู้จักอ่านความหมายของการพบกัน...

...เนื่องเพราะในยามที่อ่อนแอและอยากถูกรัก
ผู้คนอาจสับสนได้ระหว่างความรักที่คิดมอบให้ผู้อื่นกับความรักทีมีต่อตัวเอง...

...ถ้าเราอยากรู้จักผู้ใดอย่างแท้จริงสักคน
จงดูเส้นทางที่เขาเลือกและวิถีปฏิบัติของเขาขณะอยู่บนเส้นทาง
แต่ไม่ควรใส่ใจดูว่า เขาไปถึงปลายทางหรือไม่...