Sunday, May 28, 2006

ลิตเติ้ลทรี



ลิตเติ้ลทรี
วรรณกรรมเยาวชนเผ่าเชโรกี
ฟอร์เลสต์ คาร์เตอร์ เขียน
กรรณิการ์ พรมเสาร์ แปล
สำนักพิมพ์ มูลนิธิโกมลคีมทอง

*****************************************
เป็นวรรณกรรมเยาวชนซึ่งเป็นเรื่องราวของเด็กน้อยชาวอินเดียนแดงเผ่าเชโรกีที่กำพร้าพ่อแม่ อาศัยอยู่กับปู่และย่าบนภูเขา ชีวิตที่ผูกพันกันสะท้อนการดำรงชีวิตที่เรียบง่ายของคนภูเขา มีการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง เอื้อเฟื้อต่อสัตว์ป่า พึ่งพิงกันและมีสายสัมพันธ์อันงดงามที่เชื่อมโยงกับจิตวิญญาณของธรรมชาติ ในสภาวการณ์ที่อินเดียนยังคงเป็นชนชั้นต่ำที่ถูกเยาะหยัน ถูกดูแคลนว่าเป็นคนโง่งมในสายตาของคนขาว โดยผู้คนเหล่านั้นไม่ได้ศึกษาเบื้องหลังความคิดของการดำรงชีวิต มักเทิดทูนวัฒนธรรมตนเอง และสร้างเป็นกรอบให้ผู้อื่นทำตามเพื่อความเป็นศิวิไลซ์

เนื้อความที่ติดใจ ก็มีเช่นนี้...

• หนังสือที่ดี ย่อมปลุกเร้าให้มนุษย์ตื่นขึ้น การอ่านหนังสือจึงไม่ใช่แค่การอ่านตัวหนังสือเท่านั้น แต่มันคือการอ่านชีวิต อ่านสังคม อ่านโลก

• มนุษย์ในเวลานี้ ควรลดความหยิ่งลำพองของตนลงเสีย และกลับมาทบทวน “ตัวตน” เสียใหม่ ว่า เราไม่ใช่เราเท่านั้น แต่เราคือ นก แม่น้ำ ป่าไม้ ทั้งหมดนี้เป็นตัวเรา แม้จะไม่ได้อยู่ในตัวเรา เมื่อเราเห็นเช่นนี้แล้ว เราย่อมไม่ทำลายสิ่งอื่น เช่นเดียวกับเราไม่ทำร้ายตัวเราเอง

• ความกล้าหาญ คือ หัวใจของลิตเติ้ลทรี มีความเมตตาเป็นพลัง ลิตเติ้ลทรี จะไม่เดียวดาย

• จงเอาเท่าที่จำเป็น เมื่อเจ้าล่ากวาง จงอย่าเลือกตัวที่ดีที่สุด ให้เลือกตัวที่เล็กและเชื่องช้า เพื่อให้กวาง (ที่แข็งแรง) เหล่านั้น จะได้เติบโตแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ และมีเนื้อให้เรากินสม่ำเสมอ

• ไก่งวงเฒ่าพวกนี้ ก็เหมือนบางคน เพราะเขารู้ไปหมดทุกอย่าง จึงไม่มีวันก้มลงมองสิ่งที่อยู่รอบตัว เอาแต่เชิดหน้าสูงเกินกว่าที่จะเรียนรู้สิ่งอื่น

• รู้ว่าความตายในชีวิตอยู่ที่นี่แล้ว พร้อมรุ่งอรุณแห่งวัน รู้ว่าไม่มีสิ่งใดดำรงอยู่ได้ โดยไร้สิ่งอื่น

• ปัญหาใหญ่ของคนส่วนมาก เป็นเพราะไม่ได้ฝึกที่จะรักและเข้าใจกันฉันคนในครอบครัว

• เมื่อเราพบอะไรดีๆ สิ่งแรกที่น่าจะทำ ก็คือ แบ่งปันสิ่งดีนั้นกับใครก็ตามที่เราพบ เพื่อสิ่งดี จะได้แพร่ขยายออกไปไม่รู้สิ้นสุด

• คนทุกคน มีจิตอยู่สองดวง ดวงหนึ่งคือ จิตใจที่เกี่ยวข้องกับการแสวงหาสิ่งจำเป็น เพื่อให้ร่างกายมีชีวิตอยู่ได้ เราต้องใช้จิตนี้ เพื่อไตร่ตรองหาวิธีให้ได้มาเพื่อร่างกายของเราให้ดำเนินชีวิตไปได้ จิตอีกดวงหนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว คือ จิตวิญญาณ ถ้าเราใช้จิตใจไปในทาง โลภโมโทสัน หรือเลวทราม เช่น ถ้าเราชอบทำร้ายผู้อื่นเสมอ และมัวแต่คิดหาผลประโยชน์ทางวัตถุจากผู้อื่นเพื่อตนเอง จิตวิญญาณของเราจะหดเล็กลงเหลือขนาดเท่าลูกฮิคกอรี่นัท และอาจหายไปได้ ถ้าหากเราปล่อยให้จิตใจครอบงำร่างกายทั้งหมด เราจะสูญเสียจิตวิญญาณไปโดยสิ้นเชิง

• ทุกอย่างที่เราสูญเสียไป หากเป็นสิ่งที่เรารัก เราก็ย่อมรู้สึก เหมือนขาดหาย มีทางเดียวที่จะทำให้ไม่รู้สึกอย่างนี้ คือ “ ต้องไม่รักอะไรเลย ซึ่งนั้นยิ่งแย่ไปกว่านี้ เพราะเราจะรู่สึกว่างเปล่าตลอดเวลา”

• เมื่อเราเติบโตขึ้น และระลึกถึงผู้ที่เรารัก เราจะจดจำแต่สิ่งดีๆ ไม่จำสิ่งเลว ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่า ความเลวนั้นไม่มีค่าอะไรเลย

• ถ้าได้ยินใครใช้ถ้อยคำว่าร้ายใคร อย่าไปตัดสินจากถ้อยคำพวกนั้น เพราะมันไม่มีความหมายอะไร ให้ตัดสินจากน้ำเสียง จะให้รู้ว่าเป็นคนที่ต่ำช้าและโกหกหลอกลวงหรือเปล่า

• เราควรเข้าใจปัญหาของเขา แต่คนส่วนใหญ่ ไม่อยากจะเข้าใจ เพราะมันยุ่งยาก ซับซ้อนเกินไป เลยใช้ถ้อยคำมากลบเกลื่อนความขี้เกียจ

• ปู่และย่า ผู้เปรียบเป็นพ่อและแม่คนที่ 2 ของเขา ได้สอนวิธีการดำเนินชีวิตและปลูกฝังแนวคิดของชนเผ่าเชโรกี เขาได้เรียนรู้วิถีธรรมชาติอันเรียบง่ายด้วยความรักอันบริสุทธิ์ อ่อนโยน และใสสะอาด และเขาก็ได้สัมผัสชีวิตรักที่ยิ่งใหญ่ เรียนรู้ความงามและความมีชีวิตของธรรมชาติที่มอบให้เด็กกำพร้าอย่างเขา เขาเรียนรู้การจากพราก การอยู่รอด เรียนรู้ความเข้มแข็งของหัวใจ ในขณะเดียวกัน เราเรียนรู้ความรักอันอ่อนโยนในครอบครัว ถึงแม้จะห่างไกลกัน แต่ต่างก็สัญญาที่จะดู “ ดาวสุนัข ” ในค่ำคืนและส่งใจถึงกัน รวมกันเป็นหนึ่งเดียว

• เมื่อไรที่หัวใจของเขาอยู่ในที่ที่ควรอยู่ เขาจะได้เรียนรู้ว่า เขาควรจะให้ใคร และสิ่งที่ควรให้ คือ ให้การเรียนรู้ที่จะทำอะไรได้ด้วยตัวเอง

• เมื่อเราจัดระเบียบสรรพสิ่งต่างๆ แล้ว เราก็จะแยกแยะสิ่งที่เราต้องทำ และสิ่งที่เราไม่ได้ทำ เป็นห้วงเวลาแห่งการทบทวนความทรงจำ ความเสียใจ และความหวังว่า เราจะได้ทำในสิ่งที่เรายังไม่ได้ทำ และพูดสิ่งที่เราไม่ได้พูด

***********************************

วิธีชนะทุกข์และสร้างสุข



วิธีชนะทุกข์และสร้างสุข
โดย เดล คาร์เนกี้
*********************
• ธอมมัส ดาไลด์ กล่าวว่า : ภารกิจของเรา คือ ไม่มองสิ่งที่เห็นสลัวๆ ในระยะไกล แต่ปฏิบัติสิ่งที่เห็นกระจ่างที่อยู่ใกล้ๆ
• จงศึกษาวิธีที่จะมีชีวิตอยู่ “ ภายในห้องที่มีแต่วันนี้” ของ เซอร์ วิลเลียม ออสเลอร์ ซึ่งจะเป็นทางให้ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ แห่งชีวิตไปอย่างปลอดภัย จงสำรวจตัวเอง จงถือเสียว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเมื่อวานนี้ - อดีต เป็นสิ่งที่ล่วงมาแล้ว ปิดฉากไปแล้ว และสำหรับพรุ่งนี้ – อนาคต ที่ยังไม่มาถึง และยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง แล้วท่านจะปลอดภัยสำหรับวันนี้ วิธีเตรียมตนไว้สำหรับพรุ่งนี้ คือ การปฏิบัติงานวันนี้ ด้วยความขยันขันแข็ง และด้วยสติปัญญาทั้งหมดของท่าน เพื่ให้งานของท่านบรรลุไปด้วยผลอันงามที่สุด
• เซอร์ วิลเลียม ออสเลอร์ : ปิดประตูเหล็กกั้นอดีต และอนาคตไว้เสีย จงดำรงชีวิตอยู่ในห้องที่มีแต่วันนี้
• เปรียบชีวิตคนเหมือนแก้วใส่ทราย ผ่านคอขวด เราไม่สามารถทำให้ทรายผ่านคอคอดทั้งหมดได้โดยไม่ทำให้แตก เมื่อเราลงมือทำงานในตอนเช้า ภาระตั้งร้อยอย่างพันอย่าง ต้องปฏิบัติให้ลุล่วงไป จึงต้องปฏิบัติงานไปที่ละอย่าง ไม่ใช่โหมพร้อมกันหลายอย่างแบบเดียวกับเม็ดทรายผ่านคอแก้วทีละน้อย
• โรเบิร์ต หลุยส์ สตีเวนซัน กล่าวว่า “ ผู้ที่มีชีวิตเต็มไปด้วยความสุข จะเป็นผู้ที่รู้จักอดทนต่อภาระรับผิดชอบของตนเอง แม้จะหนักสักปานใด ตลอดทั้งวัน จะต้องสามารถปฏิบัติงานของตนตลอดทั้งวัน จะต้องมีชีวิตด้วยความร่าเริง พากเพียร ยิ้มแย้ม แจ่มใส จนกว่าพระอาทิตย์จะตกดิน ”
• คนฉลาด ย่อมคิดว่า วันหนึ่งๆ เป็นชีวิตใหม่ของเขา
• กวีเอกโรมัน ชื่อ “ ฮอริช” กล่าวว่า “ พรุ่งนี้ ช่างมัน , ชีวิตของฉันอยู่ถึงวันนี้ ก็พอแล้ว ”
• เรามิได้สันโดษในความเป็นอยู่ของตนเอง เพราะเราต่างฝันถึงสวนกุหลาบเนรมิตเหนือขอบฟ้าแทนที่จะมีความชื่นชมต่อกุหลาบ ซึ่งบานสะพรั่งอยู่นอกหน้าต่างห้องของเขาในวันนี้ จึงเป็นการโง่อย่างน่าเวทนาจริงๆ
• พระเยซู : อย่าได้คิดอย่างใดถึงพรุ่งนี้ เพราะพรุ่งนี้จะดูแลตัวของมันเอง จงหามาให้พอสำหรับวันนี้ จะไม่มีสิ่งร้ายมากล้ำกลาย
• วิลลิส เอช แคริเออร์ : เมื่อพบกับความล้มเหลว ให้ปฏิบัติ 3 ขั้น คือ
1. วิเคราะห์สภาพการณ์อย่างไม่หวั่นและตรงไปตรงมา และคำนวณว่า ความล้มเหลวอันนี้ จะ เป็นผลเสียหายร้ายแรงที่สุดสักเท่าใด
2. ตกลงที่จะรับความเสียหายที่ร้ายแรงที่สุดด้วยความยินดี ถ้าไม่มีทางอื่น
3. สละเวลาสติกำลังในการพยามแก้ไขสิ่งที่ร้ายแรงที่สุด (พยายามอย่างสุขุม เยือกเย็น)
• ลิน ยู ถัง จากหนังสือ “ ความสำคัญแห่งการดำรงชีวิต “ กล่าวว่า ความสงบอันแท้จริงแห่งจิตใจมาจากยินดีต้อนรับ สิ่งร้ายแรงที่เกิดขึ้นแก่เรา
• เผชิญหน้า , เลิกเป็นทุกข์ , หาทางแก้ไข แทนที่จะอยู่เฉยๆ ... การทำใจให้ผ่องใส จะช่วยให้ร่างกายต้านทานเชื้อโรคต่างๆ ได้
• ฮ๊อกส์ กล่าวว่า ถ้าบุคคลได้เผชิญปัญหาที่ทำให้เกิดทุกข์ บุคคลนั้นพึงสละเวลาค้นหาข้อเท็จจริงด้วยใจ เป็นธรรมและเที่ยงตรง ทุกข์จะแห้งหายไปท่ามกลางแสงสว่างแห่งข้อเท็จจริงที่ได้ค้นพบ
• เมื่อมีปัญหาที่ทำให้เกิดวิตกทุกข์ร้อน อย่าปล่อยให้อารมณ์ฉุนเฉียวเกิดขึ้น ต้องแก้ปัญหาด้วยใจที่เป็นธรรมและเที่ยงตรง
• โทมัส เอดิสัน กล่าวว่า “ ไม่มีหนทางใดเลยที่จะมาบังคับให้มนุษย์เลิกคิดเสียได้ ”
• จอห์น คาวเปอร์ พาวส์ กล่าวไว้ใน “ศิลปะแห่งการลืมสิ่งร้าย” ว่า สิ่งที่จะระงับประสาทของมนุษย์ให้สงบ เมื่อตกอยู่ในห้วงทุกข์ ก็คือ เพลิดเพลินในภาระของตนจนไม่มีเวลาว่าง
• ถ้าปรารถนาให้จิตใจได้รับสันติสุข เขาจะต้องไม่เอาธุระกับความผิดเล็กๆ น้อย เหตุไฉน เราจะต้องเสียเวลาด้วยการจมอยู่ในห้วงแห่งความโศกเศร้า แต่จงบำเพ็ญชีวิตของเราให้สมค่า ทั้งการกระทำและความรู้สึก เพื่อใช้ความคิดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพื่อใช้ความรักด้วยน้ำใสฝใจจริง และเพื่อความขยัน หมั่นเพียรในภารกิจ “ ชีวิตเป็นสิ่งสั้นเกินไปกว่าที่จะเอาธุระกับสิ่งเล็กน้อย ”
• จงต้อนรับกับสิ่งที่หนีไม่พ้น
• พระเจ้ามอบแก่ข้าพเจ้าซึ่งสันติสุขภายในด้วยการให้รับไว้ในสิ่งที่ข้าพเจ้าเปลี่ยนไม่ได้ ข้าพเจ้ากล้าเปลี่ยน แต่สิ่งที่สามารถจะเปลี่ยนด้วยการใช้ดุลยพินิจว่า สิ่งไหนควรหรือไม่ควร
• จง “หยุดเสียหาย” สำหรับทุกข์ จงคำนวณราคาของความสุขและความสงบแห่งชีวิตของเราเป็นเกณฑ์
• ความสุขในการดำรงชีวิต
1. เพื่อวันนี้ ข้าพเจ้าจะมีความสุข
2. เพื่อวันนี้ ข้าพเจ้าจะปรับปรุงตัวเองให้เหมาะสมในสายตาของคนทั่วๆ ไป
3. เพื่อวันนี้ ข้าพเจ้าจะเอาใจใส่ต่อร่างกายของข้าพเจ้า
4. เพื่อวันนี้ ข้าพเจ้าจะพยายามกระทำจิตใจ ให้เจริญงามยิ่งขึ้น ไม่ขี้เกียจ , สำรวมตน
5. เพื่อวันนี้ ข้าพเจ้าจะช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่ให้ผู้ที่ข้าพเจ้าช่วยรู้ตัว
6. เพื่อวันนี้ ข้าพเจ้าจะทำใจให้ปลอดโปร่ง แต่งกายสะอาดเรียบร้อย พูดด้วยสำเนียงอ่อนโยน สุภาพ ยกย่องชมเชยผู้อื่น จะละเว้นการวิจารณ์หรือพยายามเอาผิดกับสิ่งใดๆ และจะไม่พยายามสั่งสอนและตักเตือนใครๆ
7. เพื่อวันนี้ จะไม่ทุกข์เรื่องงาน / ปัญหาใดๆ ทั้งวันหน้า – วันหลัง จะเสร็จงานใน 12 ชั่วโมง
8. ข้าพเจ้าจะมีรายการว่า ชั่วโมงหนึ่ง จะทำอะไรบ้าง
9. เพื่อวันนี้ ข้าพเจ้าจะหาเวลาเงียบๆ คนเดียวสัก 1/2 ชั่วโมง เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ
10. เพื่อวันนี้ ข้าพเจ้าจะไม่กลัวสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น เช่น ไม่กลัวว่าจะไม่มีความสุข ไม่กลัวว่าจะไม่ได้รับความรัก ไม่กลัวว่าคนที่ข้าพเจ้ารัก จะรักข้าพเจ้าหรือไม่